แชร์ประสบการณ์เมื่อวันที่คนยิ้มแย้มต้องกลับไปเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า

ต้องเกริ่นก่อนนะครับ ผมเคยเข้าพบจิตเวชเมื่อ 4 ปีที่แล้วครับจากปัญหาหลายอย่าง ตอนนั้น กินเหล้าทุกเย็นครับ กินจนถึงตีสี่เรียนหกโมงเช้าจากปัญหาทางบ้านและส่วนตัว รักษามาตลอดครับ จนถึงระดับที่เรียกว่ากลับมาหายจากโรคและใช้ชีวิตปกติแบบคนธรรมดาได้อีกครั้ง พุ่งเป้าจะเป็นนักดนตรี ครับ เพราะตอนนั้นดนตรีเป็นสิ่งที่เยียวยาผมมาจริงๆ

3 ปีก่อนครับ ผมได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง โอเคครับตอนนั้นผมพุ่งเป้าที่ดนตรีเป็นอย่างมาก แต่เพื่อนก็บอกว่า อย่างน้อยมีแฟนบ้างก็ได้เวลามีปัญหา จะได้ปรึกษาอะไรเนื่องจากเพื่อนๆรู้ว่าผมป่วยครับ ผมก็ตกลงลองคุยดู จนได้เป็นแฟนครับ แต่พอเป็นแฟนแล้ว กลับมาปัญหาหลายอย่างทำให้โรคผม กำเริบทีละน้อย ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่รู้ตัวครับ มารู้สึกตัวอีกทีคืออาการหนักมากแล้ว จนเกิดการมีปากเสียงหลายรอบครับ เนื่องหลักที่อาการผมเริ่มกำเริบ เพราะผมหันมาทุ่มเทการเรียนครับ เพราะเค้าไม่อยากให้ผมทำดนตรีต่อ ผมเลยลดบทบาทของตัวเองในวงลงมา ผมไม่สบายใจทุกครั้งที่ไปซ้อมต้องโกหก หลายๆคนอาจจะบอกว่าทำไมไม่บอกความจริงไป แต่ เนื่องด้วยโรคอีกละครับ มันทำให้ผมคิดเยอะ คิดอะไรหลายๆอย่าง ไปหมด พอเป็นแบบนี้แล้ว ฟังดูอาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ดีนะครับแต่เนื่องด้วยอาการป่วยจริงๆครับผมไม่สามารถบังคับได้

1ปีที่แล้ว อาการผมหนักขึ้นมากครับ เริ่มสร้างโลกส่วนตัวสูง เริ่มต้องหาอะไรทำหลายๆอย่างเพื่อไม่ให้คิดอะไร เริ่มนอน 6 โมงเช้า ตื่นไปเรียน 8 โมงทุกวัน เพื่อที่จะคงสภาพตัวเองไม่ให้คิดอะไรเข้าไว้ครับ ซึ่งผมก็โกหกเธอมาตลอดครับ ว่าผมนอนไว ผมไม่ได้คิดอะไร แต่เราก็มีปากเสียงเรื่องผมไม่ใส่ใจมาตลอดครับ ซึ่งผมก็ไม่อยากไม่ใส่ใจนะครับ แต่ถ้าผมคุยโทรศัพท์แล้วผมจะคิดนู้นคิดนี้ไม่มีสมาธิต้องทำอย่างอื่นไปด้วย พอทำอย่างอื่นไปด้วย ด้วยความเป็น ผู้หญิงครับเราก็มีปากเสียงกันทั้งๆที่ผมไม่ได้อยากจะมีปากเสียงเลยครับ

3 เดือนก่อน เราเลิกกันครับ ผมก็โอเคครับเรามาเป็นเพื่อนกัน เพราะผมก็รู้ตัวว่าโรคที่ผมเป็นกลับมาแล้วหนักมาด้วย หลายวันเราคุยกันทีครับ แต่ผมจะบอกเธอเสมอว่า ถ้ามีคนใหม่ให้รีบบบอกนะ ผมจะไปให้ครับ เพราะผมรู้ตัวว่า ด้วยโรคผมผมไม่สามารถเห็นเค้ากับคนใหม่ได้ ผมไม่อยากรับรู้และคิดไปมากกว่านี้ ผมพยายามโฟกัสที่งานที่ผมจะทำ เริ่มรวมวงกลับมาเล่นดนตรี อีกครั้ง เริ่มเข้าพบจิตเวช แต่ผมไม่ได้บอกเธอนะครับ แต่เธอก็บอกเสมอว่า นี้ยังเข็ดกับความรักอยู่ ยังไม่อยากมีใครและยังไม่อยากกลับมาคบกัน ผมก็โอเคในเรื่องนั้นครับ

2 วันที่แล้ว ผมพบว่า เฟสมันมีอะไรแปลกๆทำไมผมดูเฟสเธอไม่ได้ ไลน์เธอบอกว่าเสียครับ เฟสเธอบอกว่าไม่ค่อยมีเวลาเล่นครับ โทรศัพท์ ก็ไม่ค่อยว่าง จริงๆผมก็รู้ตัวมานานแล้วครับ แต่ผมด้วยความที่ผมไม่อยากคิดอะไรไว้ใจ โอเคเรายังเป็นเพื่อนคุยกันได้ ปรากฏว่าอะไรดลใจให้ผมเช้าเฟสเพื่อน แล้ว กดชื่อเฟสเธอไปค้นดูครับ ปรากฏ ถ่ายรูปกับแฟนใหม่เมื่อ 6 วันที่แล้ว ทั้งที่ผมพึ่งคุยกับเธอว่า เธอบอกว่ายังไม่อยากมีใครเข็ดกับความรักเมื่อ 2 วันที่แล้วครับ ผมรู้ตัวเองเลยครับว่าตอนนั้นถ้าไม่ได้รับเหตุผล ผมจะต้องหนักแน่ๆ ผมโทรตอนนั้นเลยครับ เธอไม่รับ ไม่ตอบ ที่ผมคิดมากที่สุดคือ ถึงขนาดต้องบล็อคเฟส เปลี่ยนไลน์ และเข้าไอจีผมมากดอันฟอลตัวเองเพื่อไม่ให้ผมรับรู้ ทั้งที่บอกผมว่าเออนี้เรายังไม่ได้คุยกับใครนะ ผมเลยตัดสินใจ เพื่อช่วยชีวิตของตัวเองและรักษาความรู้สึกไว้ ถ้าคนเคยป่วยจิตเวชจะรู้ดีครับว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ในสภาวะที่ตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงมันทำให้รู้สึกไม่ดีมากๆครับ ผมโทรไปร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนสนิทผม เพื่อนสนิททุกคนโทรมาปลอบ ผมบอกตามตรงนะครับผมไม่ใช่รับไม่ได้ที่เค้ามีใหม่ครับ เพราะ เราเลิกกันแล้ว แต่ผมรับไม่ได้ ที่ เค้าไม่รักษาน้ำใจในความไว้ใจที่มีให้ครับ เค้ารู้เสมอครับว่าผม เป็นอาการหนักมาก ผมบอกตลอดว่าโรคของผม ผมควบคุมตัวเองไม่ได้นะ ซึ่งครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ผมต้องรีบจัดการกับตัวเองมากครับ ผมรีบนัดเพื่อนให้มาอยู่กับผม ให้มานั่งคุยกับผมไว้จนกว่าเพื่อนอีกคนจะมาถึงห้องผม และพอเพื่อนมาถึง เพื่อนบอกให้ตัดเลยครับ ผมก็โอเคตัดแล้ว ต้องรักษาความรู้สึกตัวเองไว้จะให้มันตกลงมากกว่านี้ไม่ได้ ผมโทรไปนัดจิตแพทย์ โทรไปบอกเพื่อนว่า ผมจะไปนั่งดอยสองวันนะ เชียงราย อยู่กับความรู้สึกตรงนี้ไม่ได้จริงๆ แต่ด้วยความที่เพื่อนเป็นห่วง เลยบอกว่า เอองั้นไปนอนคอนโดกุ ที่หัวหินกัน นัดเพื่อนกันไป เพราะเพื่อนผมรู้ว่าถ้าผมไปคนเดียวน่าจะไม่รอด เพราะ ผมจะมีช่วงที่ผมชอบไปนั่งดูคนวุ่นวายใจกลางเมืองบ่อยๆครับไปนั่งดูเฉยๆตั้งแต่ 10โมงยัน 2 ทุ่ม นั่งดูคนเดินผ่านกันสวนกันมันทำให้ผมรู้สึกว่าโลกยังคงต้องหมุนไปครับและช่วงหลังๆผมทำแบบนี้บ่อยมากเพื่อนเลยเป็นห่วงครับ ตรงนี้ต้องขอบคุณเลยครับที่เพื่อนที่ดีช่วยเราได้มาก ซึ่งพอผมกลับมาก็จะเป็นวันนัดพบจิตแพทย์อีกรอบพอดีครับ

สิ่งที่อยากจะแชร์ประสบการณ์ คือ อาการพวกนี้ไม่ใช่แค่ว่า พูดว่าเข้าใจครับ ผู้ป่วยจิตเวช หรือ ผู้ป่วยทางจิต โรคต่างๆ เช่นโรคซึมเศร้าแบบที่ผมเป็น ตอนนี้ไม่ใช่แค่ว่า ด่าเค้าว่าเกิดมามีครบยังต้องการอะไรอีก หรือ หาว่าเค้าเรื่องมากงั้นงี้ครับ มันเป็นโรคทางเคมีสมองที่ต้องใช้ความเข้าใจในตัวเค้าครับ และ กำลังความเข้าใจจากคนรอบข้าง อยากจะให้เป็นโพสประสบการณ์สอนว่า หากเราพบเจอเพื่อน หรือ มีแฟนอย่างนี้ กำลังใจเป็นสิ่งที่ดีครับ อย่ามองว่ามันเป็นเรื่องที่เค้าต้องควบคุม ต้องปรับตัวของเค้าเองครับ ให้บองพยายามปรับเข้าหาเค้าครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากจะฝากบอกว่าทุกคนเป็นโรคซึมเศร้า ได้หมดครับ แม้จะเป็นคนที่ยิ้มง่ายดูสนุกกับชีวิต มีแรงมีไฟทำหลายอย่างเยอะแยะไปหมด อยากให้หมั่นเช็คหมั่นทำแบบสอบถามครับ และ เข้าพบจิตแพทย์ถ้ารู้สึกว่าตัวเองมีอาการครับ ให้บอกคนรอบข้างไว้ด้วยครับเผื่อเราต้องการใครพวกเค้าจะได้เข้าใจในตัวเรา กระทู้นี้อยากจะให้กำลังใจคนที่ป่วยนะครับ คือเมื่อเราหาทางออกเองไม่ได้ก็ให้เพื่อนช่วยครับ และ เมื่อเราคิดว่าเรายื้ออะไรสักอย่างแล้วมันจะทำให้เราแย่เอง ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานแบบผมครับ ทำใจจบให้ไว จะช่วยตัวเราเองได้มากกว่ามายื้อไว้อย่างผมครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่